แต่ผมจะบอกว่าที่ อ ไพศาลี มันเป็นเรื่องยากครับ เพราะว่าที่นี่ไม่มีระบบ ชลประทาน ครับ
แปลงที่ผมปลูกไม่มีคลองส่งน้ำระบบชลประทานครับ ปกติชาวบ้านแถวนี้ได้อยู่ 600 กิโลต่อ 1 ไร่ครับ
แต่ปริมาณไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดต้องดูที่กำไรครับว่า มันมากขึ้นหรือไม่ ผมทดลองโดย
1 ปลูกแบบชาวบ้านแบบเดิม
2 เปลี่ยนวิธีการเตรียมดิน ใส่ปุ๋ยแบบเดิม
3 เตรียมคิดแบบเดิม เปลี่ยนวิธีการใส่ปุ๋ย
4 เตรียมดินแบบใหม่ ใส่ปุ๋ยแบบใหม่
เรื่องการใส่ปุ๋ยและเทคนิคต่างๆผมยังไม่บอกอย่างละเอียดนะครับ เพราะมันเยอะมาก
ผมทำนา และ ปลูกพริก ปลูกกล้วย ข้าวโพด และผักสวนครัวอื่นๆ แซม จะขายจะกินจะแจก ก็แล้วแต่ครับ
ผลการทดลองออกมาว่า (ผมทดลองนาน้ำฝนนะครับ
แบบที่ 1 600 - 650 กิโลต่อไร่ ต้นทุน ค่าปุ๋ย 1200 บาทต่อไร่
แบบที่ 2 650 - 680 กิโลต่อไร่ ต้นทุน ค่าปุ๋ย 800 บาทต่อไร่
แบบที่ 3 600 - 750 กิโลต่อไร่ ต้นทุน ค่าปุ๋ย 900 บาทต่อไร่
แบบที่ 4 850 - 1350 กิโลต่อไร่ ต้นทุน ค่าปุ๋ย 1000 บาทต่อไร่
ราคาไม่รวมค่าพันธ์ข้าวนะครับ
จากตารางที่ผมทำ
ผมคิดว่า ผมเลือกแบบที่ 4 ครับเพราะการทำแบบที่ 4 ของผมถ้าทำแบบนี้ไปสัก 5 ปี นาผมต้นทุนจะลดเหลือ 500 บาทต่อไร ครับ
ผมใส่ปุ๋ย 3 ครั้งต่อการทำนา 1 การปลูกครับ แต่ผมจะใส่ น้ำหมักของผมเอง ทุกครั้งที่ว่างและก่อนใส่ปุ๋ยเม็ด 5 - 7 วันครับ เพื่อเร่งให้รากแตกออกมารับปุ๋ยครับ
หาดเกษตรกรคนไหนสงสัยหรืออยากแลกเปลี่ยนความรู้กันติดต่อมาได้นะคับ
0813942485 ครับ ยินดีครับ
แต่ผมเองก็ไม่เก่งมากเท่าไหร่นะครับแต่ยินดีแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น