วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

วิธี ลดต้นทุน การทำนา การใส่ปุ๋ยเคมี การเตรียมดิน เพิ่มผลผลิต

           วันนี้ผมมีวิธีที่ผมได้ทดลองทำมาแล้ว โดยมีแนวคิดจากการทำนาในสมัยโบราณ และเอามาประยุคใช้กับกับการทำนาในสมัยใหม่   ผลที่ได้จากการทดลอง ลดต้นทุนในการทำนา การเตรียมดิน การใส่ปุ๋ย ก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจครับ  ผมจึงอยากเอามาแบ่งปันประสบการณ์กันครับ  เผื่อมีใครจะเอาไปต่อยอดและทำได้ดีกว่าผม  ผมไม่หวงครับ  ขอแค่ถ้าใช้แล้วดี ก็เอามาแบ่งปันเกษตรกรไทยกันด้วยนะครับ เพื่อให้เกษตรกรไทย มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ จะได้รวยๆๆ   และผมขอยืนยันนะครับ  การทำเกษตร เป็นอาชีพที่ยั่งยืน และจะทำให้ ไทยเราอยู่รอดได้ ครับ









              สำหรับนาน้ำฝน  จะปลูกกัน 2 รอบต่อปี  โดยเมื่อเกี่ยวรอบ 2 แล้วให้เอาถัวเขียวไปปลุก  เพื่อช่วยเพิ่ม ไนโตรเจน (N) ในดิน ไม่ต้องไปเสียตังซื้อ 46 -0 -0 มาใส่  หรือจะปลูกปอเทือง ก็ได้นะครับ ใช้เวลาประมาณ 50 - 60 วันก็ไถกลบได้เลย เป็นปุ๋ยพืชสดที่ดีมาก มี ไนโตรเจน  และ โปรแตสเซี่ยวเยอะครับ เมื่อไถกลับ ปุ๋ยพืชสด แล้วก็ให้ทำการปล่อยน้ำเข้านา เพื่อหมักดิน และซากพืชต่างๆ โดยเราจะใส่น้ำหมัก EM เพื่อเร่งการย่อยสลายให้เร็วขึ้น และดินก็จะคลายธาตุอาหารออกมาเพื่อให้พืชสามารถดึงไปใช้งานได้ บางครั้งดินมีธาตุอาหารเยอะมากแต่ ดินไม่ปล่อยธาตุอาหารออกม พืชก็ดึงไปใช้ไม่ได้  ทำให้พืชไม่โต ครับ  ข้าวก็เช่นกัน ผมจะหมักดินไว้ 15 วันครับ  แลัวก็ตีดินครับ เพื่อให้ดินนุ่ม ไม่แน่นครับ  แล้วก็หว่านข้าวได้เลย  การทำแบบนี้ จะช่วยลดต้นทุนการใส่ปุ๋ยไปได้คับ สังเกตุดูได้จากต้นข้าวจะเขียวเร็วและรากก็จะเยอะ เพราะรากสามารถเดินได้ดี ดินไม่แน่น
         หลังจากการเกี่ยวรอบที่ 1 หรือการทำนาชลประทาน  ให้ทำการหมักฟางในนาทันที จะหาแกลบดิบมาลงก้ได้ ไร่ละ 500-1000 กก เพื่อช่วยเพิ่ม โปรแตสเซี่ยม (K) ในดิน เพิ่มข้าวจะนำไปสร้างแป้ง ลดการใส่ปุ๋ย 0-0-60  ได้ครับ  ดินก็จะไม่แน่นรากข้าวสามารถเดินได้ดี โดยผมจะหมักฟางข้าวทิ้งไว้ 15 วันเช่นกัน  แต่ต้องใส่ EM เร่งการย่อยยนะครับพอครบ 15 วันก็ให้ทำการไถแปรได้เลย ดินจะพร้อมสำหรับการปลูกในครั้งต่อไปครับ    เมื่อข้าวอายุ 25 - 30 วัน ใช้บรเพชรแก่ 10 กก  แต่น้ำ 200 ลิตร ใส่สะเดาขมไปด้วย 10 กก ไปด้วยก็ได้   แช่ไว้ 2 คืน  แล้วเอาน้ำนี้ไปปล่อยเข้านา เพื่อลดและแก้ปัญหาหนอนกอครับ  เพราะการใช้ ปุ๋ย ยูเรียเยอะ จะทำให้เกิดหนอนกอ มาก ผมจึงแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ตั้งแต่แรก และเมื่อข้าวเริ่มจะตั้งท้อง  ให้ปล่อยน้ำออกให้หมดแล้วเปลี่ยนน้ำใหม่ใส่เข้าไปแทน  เพราะอาจทำให้ข้าว ขม ได้ ครับ(ผมคิดเอาเองนะ)
 
          ผมทำน้ำหมักใช้เองโดยมี สูตรเร่งต้น เร่งราก  เร่งแป้ง  เพื่อให้เหมาะกับช่วงอายุของข้าว โดยใช้วัสดุธรรมชาตเน้นของฟรีไม่ต้องซื้อครับ   นำมาหมักเองตามสูตร   ผมจะนำไปฉีดพ่นทางใบโดยจะฉีดก่อนหว่านปุ๋ย 5-7 วันครับ  โดยจะมีรากออกมาใหม่หลังจากฉีดพ่นทางใบแล้ว  เมื่อเราหว่านปุ๋ยไป  รากก็จะดูดซึมไปใช้ได้เยอะ เราจึงไม่ต้องใช้ปุ๋ยมาก  ผมใช้ประมาณ  5 กก ต่อ 1ไร่   ใส่ 3 ครั้ง  ก็  15 กก ต่อ 1 ไร่ครับ  ผมปลูก 30 ไร่ ใช้ปุ๋ยไป 10 กระสอบ =  500 กก   ครับ  ราคาประมาณ 9,000 บาท ครับ  9,000 / 30 = 300 บาท ครับ


(ผมไม่ได้รวมค่าฉีดยาฆ่าหญ้า  ยาฆ่าแมงต่างๆนะครับ  ค่าน้ำมันเครือ่งพ่นยา)
ค่ารถไถ       9,000
ค่ารถตีดิน    7,500
ค่าน้ำหมัก      500
ค่าปุ๋ย           9,000
 รวม           26,000    บาท ครับ

คิดต้นทุนต่อไร่  ก็จะได้  26,000 / 30  = 867 บาท

ผมคิดแบบต่ำๆเลยนะคับ  ( แต่คิดว่าถ้าทำจริงๆ จะได้มากกว่านี้แปลงทดลงผมได้ 900 กก )
1 ไร่  ผมได้ 500 กิโล    ตีเป็นเงินประมาณ     6,000 บาท  ( ตันละ 12,000 บาท )

คิดกำไรต่อไร่  คร่าวๆ    6,000 - 867 = 5,133  บาท


ปลูกข้าว 4 เดือน ได้ต่อไร่ประมาณ 5,000  ผมว่าราคานี้เกษตรกรก็พออยู่ได้และมีเงินเหลือเก็บด้วยนะครับ  เพราะผมเองก็ทำมาแล้ว ทำให้เป็นตัวอย่างมาแล้วว่าทำได้จริง  แต่ถ้าไปเร่งใส่ปุ๋ยเคมีเยอะๆๆๆๆๆๆ  เราก็ต้องมาเจอต้นทุนเรื่องการปรับปรุงดินอีก  ผลผลิตก็ไม่มี  ถ้ายิ่งใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่มก็เปลื่องเงินป่าวๆครับ

หากมีข้อสงสัยโทรมาคุยกันได้ครับ


ยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ครับ
             


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น